รวม 7 เคล็ดไม่ลับ บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

             ทุกคนย่อมรู้ดีว่าเรามีเวลาในแต่ละวันเท่าเทียมกันที่ 24 ชั่วโมง ดังนั้นการใช้เวลาในทุกๆ วันอย่างเต็มที่จึงจะก่อให้เกิดประโยชน์กับการดำเนินชีวิตมากที่สุด โดยเฉพาะกับเหล่าคนทำงานที่ต้องจัดการงานและภารกิจต่างๆ แบบที่เรียกว่าแข่งกับเวลาอยู่เสมอ สิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้คือ “การบริหารเวลา” ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญที่จำเป็นอย่างยิ่งของคนทำงานในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะเป็นคนเก่งหรือมีความสามารถขนาดไหน หากไม่สามารถบริหารเวลาได้อย่างเหมาะสม การทำงานก็ไม่อาจเสร็จสมบูรณ์ตามเป้าหมายได้เช่นกัน เราจึงรวบรวมเคล็ด (ไม่) ลับดีๆ สำหรับการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพให้ไปลองใช้เป็นแนวทาง แบบที่คำว่า “ไม่มีเวลา” จะไม่มีทางมาเป็นอุปสรรคในการทำงานกันอีกต่อไป

เทคนิคการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ สำหรับคนทำงานยุคนี้

ใน 1 วัน ทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่ต่างกันที่การบริหารเวลา

“การบริหารเวลา” ทักษะสำคัญที่คนทำงานยุคนี้ต้องมี

             แม้จะเป็นคนเก่งขนาดไหน แต่หากไม่สามารถจัดการงานต่างๆ ให้เสร็จตามเป้าหมายได้ก็ถือว่าเป็นคนทำงานที่ล้มเหลวไม่ต่างกัน เพราะฉะนั้น หนึ่งในทักษะสำคัญที่คนทำงานทุกคนต้องมีคือ “การรู้จักบริหารเวลา” ให้คุ้มค่า เกิดประโยชน์ และมีประสิทธิภาพมากที่สุด เรียกว่าในยุคนี้กลายเป็น Soft Skill ที่หลายองค์กรต้องการอย่างชัดเจนและมีการระบุเฉพาะเจาะจงในคุณสมบัติของพนักงานเลยทีเดียว โดยการทำงานที่มีการวางแผนและบริหารเวลาได้ดีจะช่วยให้การดำเนินต่างๆ สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมาย ได้ผลิตผลที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อภาพรวมและการเติบโตขององค์กรต่อไป นอกจากนี้ การบริหารเวลายังช่วยสร้างสมดุลและลดความตึงเครียดในการทำงานให้พนักงานสามารถทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย

ทักษะการบริหารเวลา Soft Skill ที่ HR ต่างมองหา

อย่าปล่อยให้เวลาหายไป! รวม 7 เคล็ด (ไม่) บริหารเวลาอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

วางแผนการทำงานไว้ก่อน

             ก่อนเริ่มงานควรหาเวลาวางแผนการทำงานหรือจัดตารางการทำงานในภาพรวมล่วงหน้าไว้ก่อน เพื่อให้เราได้เตรียมตัว ทำความเข้าใจ และตั้งเป้าหมายในการทำงานนั้นๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยอาจใช้การจดบันทึกหรือใช้แอพพลิเกชันช่วยจำในการวางแผนการทำงานซึ่งอาจแบ่งเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายไตรมาส เพื่อลดการทำงานซ้ำซ้อนและสับสน ซึ่งจะทำให้เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ

เรียงลำดับความสำคัญของงาน

             จากนั้นให้ลองพิจารณาความสำคัญของงานแต่ละประเภทว่า ควรทำชิ้นไหนให้เสร็จก่อน โดยอาจแบ่งเป็นงานเร่งด่วน งานสำคัญ งานไม่สำคัญ และงานไม่เร่งด่วน และให้ทำงานที่ต้องการเร่งด่วนเป็นอันดับแรก นอกจากนี้ หากดูจากความยากง่ายของงาน แนะนำให้ทำงานที่ยากที่สุดให้เสร็จก่อน เพื่อให้เกิดความสบายใจและยังหลงเหลือพลังงานในการจัดการกับงานเล็กๆ น้อยๆ ที่เหลือต่อไป

กำหนดเวลาในการทำงาน

             การกำหนดระยะเวลาในการทำงานจะช่วยให้เราสามารถโฟกัสกับงานนั้นๆ ได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะเรารู้ว่านี่คือช่วงเวลาที่ต้องให้ความสนใจและความสำคัญกับการสะสางงานชิ้นที่วางอยู่ตรงหน้า และไม่ปล่อยให้สิ่งอื่นๆ มารบกวนหรือดึงความสนใจไปได้ แต่อย่าลืมแบ่งเวลาสำหรับการพักเบรกหรือช่วงพักผ่อนระหว่างการทำงานไปด้วย เพื่อไม่ให้เกิดอาการเครียดสะสมจนหมดไฟในการทำงานเสียเอง

ทำ To-Do list หรือ Check List กันลืม

             สำหรับคนขี้ลืมลองทำบันทึกเป็น To-Do list หรือ Check List งานยิบย่อยต่างๆ ในแต่ละวันไว้อีกชั้นกันเหนียวและกันลืม โดยอาจใช้เวลาก่อนนอนหรือช่วงเช้าระยะสั้นๆ สร้างรายการงานที่ต้องเคลียร์ของวันที่กำลังมาถึง หรือแบ่งงานเป็นชิ้นย่อยๆ แล้วค่อยๆ จัดการไปทีละส่วน เพื่อให้เราไม่พลาดรายละเอียดหรือสิ่งสำคัญเล็กๆ น้อยๆ ต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่องานใหญ่ในภาพรวมโดยตรงได้อย่างไม่คาดคิด

รู้จักแบ่งเวลา ช่วยให้การบริหารเวลามีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขจัดสิ่งรบกวนการทำงานให้มากที่สุด

             พยายามมีสมาธิ ขัดสิ่งรบกวน และสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่ดีให้ได้มากที่สุด เช่น การปิดแจ้งเตือนโซเชียลมีเดียต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ ลดเสียงหรือตั้งระบบสั่น หากทำงานที่ใช้ความคิดมากจริงๆ ไปจนถึงหามุมทำงานที่เงียบสงบ ไม่มีเสียงพูดคุยให้ว่อกแว่ก หรือจำกัดจำนวนอีเมล์ที่ต้องตอบหรือสายโทรศัพท์ที่ต้องรับ ซึ่งจะเข้ามาขัดขวางการทำงานตามแผนการบริหารเวลาของเราได้มากกว่าที่คิด

แบ่งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้ชัดเจน

             หลายคนมักมองข้ามการแบ่งเวลาในการทำงานและเวลาชีวิตส่วนตัวไปอย่างไม่รู้ตัว คนทำงานที่ดีควรจะรู้จักแบ่งเวลาอย่างเหมาะสม ในช่วงที่ต้องโฟกัสกับงานก็ให้ตั้งใจและลงมือทำให้เต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาพักก็ควรหยุดการทำงานและพักผ่อนใช้ชีวิตของเราอย่างเต็มที่เช่นกัน เพราะคนทำงานมืออาชีพคงไม่ใช่คนที่ขนงานกลับไปทำที่บ้านแบบไม่หลับไม่นอน หรือคนที่ละเลยเวลาที่มีกับครอบครัวและคนรอบข้างไปเพื่องานตลอดเวลาอย่างแน่นอน

หาเวลาพักและอย่าทำงานหักโหมเกินไป

             การหักโหมทำงานหนักเกินเวลาจะยิ่งทำให้การบริหารเวลาในวันต่อๆ ไปยากมากขึ้น เพราะเราหมดพลังไปกับการทำงานที่ไร้สมดุลแล้วนั่นเอง ดังนั้นอย่าลืมหาเวลาพักเบรกระหว่างการทำงาน เช่น พักสายตาจากจอคอมพิวเตอร์หรือพักความคิดที่วุ่นวายเหนื่อยล้าสัก 5 – 10 นาที ทุกๆ 1 ชั่วโมงของการทำงาน หรือจะใช้เวลานี้เดินเล่น จิบกาแฟ ทักทายเพื่อนร่วมงานบ้าง เพื่อให้สมองของเราได้หยุดพักและรีเฟรชใหม่พร้อมรับมือกับงานชิ้นต่อไปได้อย่างสดใสและมีพลัง

             ใครกำลังจัดการงานที่แสนยุ่งเหยิง ลองนำวิธีบริหารเวลาไปใช้กัน และอย่าลืมใช้เวลาที่เหลือลองเข้าไปค้นหางานใหม่ดีๆ กันได้ทันทีที่ JOBTOPGUN ได้เลย

             ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหางาน อยากสมัครงานบริษัทตำแหน่งไหน จะเป็นเด็กจบใหม่ไฟแรง หรือต้องการมองหางานประจำที่ช่วยขยับขยายเปลี่ยนสาย Job ให้ก้าวหน้า ก็สามารถหางานด่วนที่ใช่ ในบริษัทที่ถูกใจ ได้ที่ JOBTOPGUN ทั้งทางเว็บสมัครงานออนไลน์ ที่รวบรวมงานพร้อมข้อมูลเงินเดือนจากบริษัทชั้นนำไว้มากมายกับแอปหางานที่อัปเดตใหม่ทุกวัน ดูแลให้คุณได้งานจริง ด้วย Super Resume ที่ให้คุณสร้าง Resume อย่างมืออาชีพ นำเสนอคุณให้โดดเด่นกว่าใคร ยังมีรีวิวบริษัทที่ช่วยให้คุณรู้จักบริษัทมากขึ้นตามความจริง โหลดแอป JOBTOPGUN ได้เลยวันนี้ แม้จบใหม่ก็หางานง่าย ได้งานดี ได้ที่ JOBTOPGUN

สมัครงานกับบริษัทชั้นนำทันที สร้าง Super Resume (ใบสมัครงาน) เลย ฟรี!

คำค้นหายอดนิยม

..